ทันหุ้น - กนง.มีมติ"ลด" ดอกเบี้ยลง 0.25%เหลือ 1%ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หวั่นโคโรนา-งบล่าช้า-ภัยแล้งฉุดจีดีพีต่ำคาด2.8%วงการเชื่อเปิดช่องลดดอกเบี้ยได้อีกKBANKนำร่องลดดอกเงินกู้ MRR 0.25%นักวิเคราะห์ประสานเสียงเก็บหุ้นปันผล ขี้SENA, AP, KKP, TISCO, และ IRPCด้าน “เอเซียพลัส” ชี้ อสังหาฯ, เช่าซื้อ-ลิสซิ่ง, แบงก์กลางเล็กรับอานิสงส์

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ เอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง0.25%จาก 1.25% เป็น 1.00%ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี2563มีโอกาสเติบโตต่ำกว่าที่ ธปท. เคยประเมินไว้ที่ 2.8%และมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าระดับศักยภาพค่อนข้างมากจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ความล่าช้าของ

 พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายและภัยแล้ง เสถียรภาพระบบการเงินเปราะบางเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ในสถานการณ์เช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประสานมาตรการทั้งทางการเงินและการคลัง

นายทิตนันทิ์ระบุด้วยว่า ยังเร็วไปที่จะประเมินว่าไทยต้องใช้ดอกเบี้ยติดลบ แต่การปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 1% เป็นเครื่องมือที่กนง.ได้เตรียมไว้ใช้ในภาวะที่จำเป็นเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องเพิ่มสภาพคล่อง และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่จำเป็นต้องถึงขั้นใช้มาตรการฉีดปริมาณเงิน(QE)เพราะสภาพคล่องในระบบไม่ได้มีปัญหา

ด้าน กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ความเห็นของ กนง. แสดงถึงมุมมองที่สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนอย่างชัดเจน ดังนั้นการตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่นี้ถือเป็นการเปิดทางให้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้อีก ถ้าหากสถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม  โดยการประชุมกนง. รอบถัดไปวันที่ 25 มีนาคม 2563

@KBANKนำรองลดดบ.ทันที

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยนำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR สำหรับลูกค้าบุคคล และลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลง 0.25% จากเดิม 6.87% เป็น 6.62% เพื่อตอบสนองทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในการสนับสนุนและส่งเสริมภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่มีความเปราะบางจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคลสำหรับในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดา แต่มีการปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคลลง 0.10% - 0.12% และเงินฝากประจำลง 0.05%-0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

แนะซื้อหุ้นปันผล

นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ ในภาวะอัตราดอกเบี้ย “ขาลง” ประกอบกับบริษัทจดทะเบียนอยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงานและจะทยอยประกาศจ่ายเงินปันผลประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้ ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงคัดหุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง, ฐานธุรกิจมั่นคง, หุ้นมีสภาพคล่องในการซื้อ-ขายสูง, ราคาซื้อ-ขาย ณ ปัจจุบันมี Up sideระดับ 1-2 ดิจิต ประกอบด้วย SENAราคาเหมาะสมที่ 3.63 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 562 ที่ 5%พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายปันผลปี 2563 ที่ 8%, APราคาเหมาะสมที่ 8.20 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2563 ระหว่าง 4.7-5%, KKP ราคาเหมาะสมที่ 83 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2562 ที่ 3.5%พร้อมคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 5.9%, TISCOราคาเหมาะสมที่ 110 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 4.5%, และ IRPCราคาเหมาะสมที่ 4.20 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 5%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจะกดดันให้ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ลดลง จึงมีโอกาสที่เม็ดเงินจะโยกย้ายมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน, กองทุนอสังหาริมทรัพย์, และหุ้นปันผล ซึ่งมักจะ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงก่อนการขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 8%และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกกว่า 80% แนะนำ MCS, PSH, KKP, DIF และ POPF

ฝ่ายวิเคราะห์ คัดกรองหุ้น3 กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ และยังมีแรงหนุนหากกนง. อาจมีการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต ดังนี้1.กลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีโครงสร้างสินเชื่อที่คิด อัตราดอกเบี้ย “คงที่” สูงขณะที่ต้นทุนทางการเงินส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้หรือเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยปรับตัวลดลงทำให้ต้นทุนของกลุ่มเช่าซื้อถูกลง ฝ่ายวิเคราะห์ แนะนำ MTC ราคาเหมาะสม 71 บาท

2.กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กมีโครงสร้างสินเชื่อที่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่สูง แต่มีโครงสร้างเงินฝากบางส่วนที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจึงเป็นบวกต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin :NIM) แนะนำ KKP ราคาเหมาะสม 79.5 บาท, และ 3.กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังได้อานิสงส์จากมาตรการภาครัฐบาลที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แนะนำ LH ราคาเหมาะสม 12.30 บาท, PSH ราคาเหมาะสม 18.5 บาท,และ AP ราคาเหมาะสม 8.9 บาท