ทันหุ้น-หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นยกแผง หลังครม.อนุมัติลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินลงเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร จากเดิมที่ 4.726 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 7 เดือน โบรกมองเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ช่วยลดต้นทุน ชี้ AAV-BA-NOK รับมากสุดบินในประเทศ แต่ต้องระวังผลงานปีนี้ยังวูบ

สถานการณ์หุ้นกลุ่มการบินวานนี้ (4 ก.พ.) ปรับตัวขึ้นยกแผง โดย หุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ปิดที่ 2.02 บาท บวก 10.38% มูลค่าการซื้อขาย 267.59 ล้านบาท, หุ้นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ปิดที่ 5.85 บาท บวก 1.74% มูลค่าการซื้อขาย 13.08 ล้านบาท, หุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOKปิดที่ 1.94 บาท บวก 1.57% มูลค่าการซื้อขาย 1.37 ล้านบาท และหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI ปิดที่ 5.75 บาท บวก 1.77% มูลค่าการซื้อขาย 28.72 ล้านบาท

หลัง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น (น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินฯ) ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินฯ ที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเที่ยวบินในประเทศ จากเดิม 4.726 บาทต่อลิตร เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563

**โบรกฯ มีมุมมองเชิงบวก

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อกรณีที่ภาครัฐจะปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบินลง ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการสายการบินในภาวะอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยคาดว่าหุ้น AAV NOK และ BAซึ่งมีเส้นทางการบินในประเทศจะได้ประโยชน์มาก ส่วนหุ้น THAIจะได้ประโยชน์ไม่มาก เพราะมีเส้นทางบินระหว่างประเทศเป็นหลัก

โดยประเมินผลบวกต่อ AAV และ BA ทำให้ต้นทุนปี 2563 ลดจากเดิม 700-800 ล้านบาท และ 400 ล้านบาทตามลำดับ ลดลงมา ดังนั้นจึงเป็นประเด็นเก็งกำไรระยะสั้นต่อหุ้นเท่านั้น

**แนวโน้มยังไม่สดใส

อย่างไรก็ตาม มองว่าผู้ประกอบการสายการบินในปี 2563 มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน แม้ว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการลดภาษีน้ำมันเครื่องบินก็ตาม ขณะที่ยังถูกกดดันจากประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน อยู่ระหว่างทบทวนประมารการและราคาเป้าหมายของหุ้นสายการบิน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี(ประเทศไทย) จำกัด มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกลุ่มสายการบิน โดยคาดว่าสายการบินจะมีการปรับลดค่าตั๋วโดยสาร เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติม หลังจากที่ครม.อนุมัติการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน จะเป็นการลดผลกระทบจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงจากความกังวลจากไวรัสโคโรนา

นอกจากนี้ระยะเวลาที่ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินชั่วคราวเป็นเวลา 7 เดือน ซึ่งดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน ประเมินว่าจะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิปีนี้ของ AAV เพิ่มขึ้นราว 250 ล้านบาท และ BA เพิ่มขึ้นราว 133 ล้านบาท โดยยังคงแนะนำถือหุ้น AAVให้ราคาเป้าหมายที่ 3.00 บาทต่อหุ้น ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เพราะมีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มนี้