ทันหุ้น – MC เข้าตานักลงทุนVI ”ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” เข้าซื้อบิ๊กล็อต เผยสาเหตุพื้นฐานแกร่ง-มีแคชโฟลว์สูง พ่วงด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารรุกแผนหนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง แถมเน้นย้ำลงทุนระยะยาว หวังรับผลตอบแทนจากเงินปันผล ด้านโบรกเกอร์ ชูยีลด์สูงเฉลี่ยปีละ 6% น่าซื้อตุนพอร์ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ MC ได้แจ้งการขายหุ้นบิ๊กล็อต จำนวน 10 ล้านหุ้น หรือประมาณ 1.25% ให้กับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในฐานะนักลงทุนหุ้นคุณค่า (VI) หลังได้มีการเจรจาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคม 2563

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในฐานะนักลงทุนหุ้นคุณค่า เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนเองเข้าลงทุนในหุ้นของ MC เนื่องจากมองเป็นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบกับตัวเลขกระแสเงินสด (แคชโฟลว์) อยู่ในระดับที่สูง ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาหุ้นของ MC บนกระดาน ซึ่งถือเป็นเครื่องสะท้อนภาพของธุรกิจได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังรวมถึงการที่ทาง MC ได้มีการปรับโครงสร้างทีมบริหารเพิ่มเติม โดยมีการแต่งตั้ง "นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์" เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร" มีผล 1 ตุลาคม 2562 และได้แสดงวิสัยทัศเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการที่ตนเองเข้าลงทุนในหุ้นของ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

 “การเข้าซื้อหุ้นของทาง MCครั้งนี้ ส่วนตัวมีความประสงค์จะต้องการลงทุนในระยะยาว เพราะจากการพิจารณาข้อมูลต่างๆ พบว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการจ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล (ดิวิเดนด์ยีลด์) เป็นตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงมองเป็นโอกาสในการสร้างผลตอนแทนจากเงินปันผลในส่วนดังกล่าวในอนาคต”

ชูปันผลเด่น6%

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น MC หลังบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ของบริษัทในครั้งใหญ่ โดยในปี 2563 ปีแห่งการปรับโครงสร้างและวางฐาน ซึ่ง MC จะให้ความสำคัญกับ 1. Customer Centricity 2. Brand Access and Experience 3. Healthy Supply Chain ซึ่งเป็นปีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรโดยเริ่มมีการนำ Data Analysis มาใช้เพื่อผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมกันนั้นก็จะลงทุนในการสร้าง Brand ให้แข็งแกร่งจากก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีการสร้าง Brand มากนัก และปิดท้ายด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของ Supply Chain ที่เป็นจุดแข็งของ MC อยู่แล้วให้แข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิม

พร้อมกันนี้ในปี 2564 จะคงเดินหน้าต่อยอดรากฐานด้วยการสร้าง News S-curve - MC ให้มุมมองว่าจะมีการสร้าง Revenue model รูปแบบใหม่ผ่านความร่วมมือ (Partnership) กับกลุ่มผู้ค้าที่มีศักยภาพโดยจะเป็นมี Integration ระหว่าง Online และ Offline Platform และมีการสร้าง Affiliate Program ขึ้น เพื่อต่อยอดรายได้ใหม่บนฐานรายได้เดิม

ส่วนปี 2564 ทาง MC มีแนวทางขยายตลาดสู่ International Market - ปีนี้จะเป็นการขยายตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายเข้าสู่ตลาดประเทศลาว มาเลเซีย เมียนมา  และอิหร่าน และขยายฐานลูกค้าในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เอเซียและแอฟริกา เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตมากยิ่งข้น

ทั้งนี้ แม้แผนงานของธุรกิจในส่วนต่างๆ นั้นจะมีความท้าทาย แต่ทางฝ่ายวิเคราะห์มองเห็นถึงศักยภาพการบริหารจากกลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ โดยฝ่ายวิเคราะห์แผนกลยุทธ์ของปี 2563 และการ Execution ที่ดีจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ MC เนื่องจากตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาบริษัทพบกับ Disruption ทางเทคโนโลยีที่ E-Commerce เข้ามามีบทบาทเหนือ Brick and mortar ในอุตสาหกรรม Retail และการเข้ามาของ International brand ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถปรับตัวได้ทัน หลังจากนี้ กลยุทธ์ของบริษัทจะสร้าง Seamless Experience กับ Online to Offline (O2O) พร้อมกับการทำการตลาดและ Branding ในรูปแบบใหม่ ซึ่งหากทำได้จริงก็จะช่วยทำให้ยอดขายและกำไรมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมาก

จากปัจจัยดังกล่าว ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า MC เป็นหุ้นปันผลเด่นที่จ่ายปันผลในระดับเฉลี่ย 6% ตลอด 6 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้าตลาดในปี 2559 จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน