SCBS คาดดัชนีจะผันผวน มองราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อสะสม

สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS คาดดัชนีวันนี้จะมีความผันผวนในช่วงระหว่างการซื้อขายด้วยปัจจัยกดดันหลักยังคงอยู่จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตามดัชนีปรับลงสะท้อนในระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงเห็นสัญญาณที่ดีจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่กลับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ และการเริ่มฟื้นตัวของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรฯ เช่นเดียวกับกลุ่มหุ้นจ่ายปันผลที่คาดว่าจะได้รับความสนใจในช่วงนี้ ทำให้มองแนวรับบริเวณ 1506-1512 จุด จะรองรับได้ ส่วนแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1535 และ 1547 จุด

 กลยุทธ์การลงทุน: การอ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อสะสม โดยจุดซื้อถัดไปอยู่ที่แนวรับ 1500 จุด กลุ่มหุ้นที่เราแนะนำเป็นส่วนผสมของหุ้นแนวโน้มกำไรดี หุ้น Defensive และหุ้น Laggard ได้แก่ BDMS BTS EA IVL PTTEP หุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ KKP และ TISCO

 ประเด็นหลัก

ภาพรวมตลาดวันก่อน ดัชนีฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับลงต่อเนื่อง 7 วันทำการ โดยมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน กลุ่มอาหาร ส่วนแรงขายมาจากกลุ่ม ICT และธนาคาร ทางด้าน Fund Flow นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทย ส่วนสถาบันฯ สลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่ SET50 Futures ต่างชาติ Long ส่วนสถาบัน Short สุทธิ ทางด้าน Stock Futures ต่างชาติและสถาบันฯ Short สุทธิ โดย OI ของ Stock Futures ลดลง แต่ของ SSF เพิ่มขึ้น

ปัจจัยสำคัญ

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย DJIA +0.0% S&P500 -0.1% Nasdaq +0.1% นักลงทุนยังกังวลสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่แพร่ระบาดเร็วกว่า SARS แม้การประชุม FOMC วานนี้ Fed จะยังคงมีความเห็นเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐก็ตาม

(0) Fed คงดอกเบี้ย-ย้ำกระตุ้นเงินเฟ้อขึ้น โดยคณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5-1.75% ตามคาด โดยระบุนโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมแล้ว ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง การใช้จ่ายครัวเรือนขยายตัวปานกลาง นอกจากนี้ยังระบุจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%

(-) ราคาน้ำมันลดลง WTI-F -0.3% Brent-F +0.5% กดดันจากสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 4.82 แสนบาร์เรล นอกจากนี้ยังคงเป็นความกังวลการระบาดไวรัสโคโรนากดดันอุปสงค์น้ำมัน

(0) ศาล รธน.รับคำร้องวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 กรณีเสียบบัตรแทนกัน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว เพราะแม้ว่าศาล รธน.อาจใช้เวลาอย่างน้อยราว 30-60 วัน ในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ขึ้นกับผลการวินิจฉัยด้วยว่าเป็นโมฆะหรือไม่ อย่างไร ซึ่งถ้าโมฆะเพียงบางมาตราที่มีการเสียบบัตรแทนกัน ก็อาจใช้เวลาไม่นานอย่างที่ประเมินไว้ ขณะที่ตลาดก็สะท้อนประเด็นนี้ไปแล้วพอสมควร

Investment Ideas

ปัจจัยลบใหม่รุมเร้าเศรษฐกิจไทย..เลือกหุ้น Defensive เป็นหลุมหลบภัย ด้วยปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่เข้ามาตั้งแต่ต้นปี ทั้งไวรัสโคโรนา, ปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าทุกปี และพ.ร.บ.งบฯ 63 ที่ล่าช้าไปอีก 2 เดือน ส่งผลให้เราปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้เป็น 2.4% จาก 2.7% คาดจะชะลอตัวแรงสุดใน 2Q63 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นบ้างใน 2H63 ขณะที่คาดประมาณการกำไรบจ. จะหายไป 2.8 หมื่นลบ.หรือ 4% ของประมาณการเดิม ทำให้ EPS Growth เหลือ 8.4% บนคาดการณ์ EPS ที่ 106 จาก 110 บาทต่อหุ้น อิง P/E 15x ทำให้ SET Index อยู่ในกรอบ 1,600-1,700 จุด ดังนั้น ภายใต้ภาวะปัจจัยลบล่อมรอบทั้งในและต่างประเทศ เราแนะนำเลือกลงทุนในหุ้น Defensive และ/หรือ หุ้นปันผลสูง โดยหุ้นที่แนะนำซื้อเพื่อรับปันผลในระยะ 3 เดือนข้างหน้านี้ ได้แก่ TISCO, TCAP, KKP, KTB, BBL ส่วนหุ้นที่แนะนำซื้อถือลงทุนในช่วง 6-12 เดือน ได้แก่ TCAP, TISCO, KKP, DIF, KTB, BBL, INTUCH, TTW, ADVANC, RATCH

หุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ KKP (รับ 68.00 ต้าน 71.50 cut 66.25) และ TISCO (รับ 101.00 ต้าน 107.00 cut 97.00)