คลังเสนอครม.เร่งลงทุน ไม่มีชัตดาวน์แม้งบล่าช้า

ทันหุ้น-“ขุนคลัง” ยันรัฐบาลไม่มีชัดดาวน์ แม้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย63 ล่าช้า พร้อมหาแนวทางแก้ปัญหา เตรียมเสนองบลงทุนผูกพัน งบใหม่เข้า ครม. พร้อมออกมาตรการกระตุ้นลงทุนเอกชน โบรกเกอร์ประเมินหากสามารถแก้ปัญหาได้ จะทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรับผลดี แต่แนะยังไม่ควรรีบเข้าลงทุน รอความชัดเจนก่อน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ยังล่าช้า จะไม่ทำให้เกิดภาวะ Government Shutdown ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณากรอบงบประมาณรายจ่ายที่จำเป็น อาทิงบลงทุนผูกพัน และงบลงทุนโครงการใหม่ที่เหมาะสม พร้อมมาตรการกระตุ้นการลงทุน เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 นี้ นอกจากนี้ยังได้หารือกับสำนักงบประมาณเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยยังสามารถจ่ายเงินเดือนข้าราชการได้ ใช้งบปี 2562 ไปก่อน

"โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดภาวะนั้น ไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาลจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือนข้าราชการได้ รัฐบาลยังสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ภายในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2562 ขอเวลาให้เราศึกษากรอบแนวทางด้านกฏหมาย ซึ่งท่านนายกฯ ได้สั่งการอย่างใกล้ชิด"

สำหรับมาตรการกระตุ้นการลงทุนที่จะเสนอให้ครม. พิจารณามีประเด็นหลักคือ ยอมให้หักค่าใช้จ่ายการลงทุนนำเข้าเครื่องจักร 2.5 เท่า และยกเว้นอากรขาเข้า ผสาน BOI สนับสนุนแพคเกจการลงทุนในพื้นที่ชนบท และการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งภายใน/เชื่อม EEC และผลักดันการลงทุนร่วมภาคพื้นแปซีฟิค-ญี่ปุ่น ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

ก่อนหน้านี้ นายสมคิด ระบุ รัฐบาลพร้อมเร่งผลักดันให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณตามเป้าหมาย ภายในเดือนมีนาคม หรือไตรมาส 2/2563 ของปีงบประมาณ จะต้องเบิกจ่ายให้ได้อย่าง 54%หรือ คิดเป็นเม็ดเงินงบประมาณที่ 1 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันเบิกจ่ายได้เพียง 23% และจะผลักดันให้ขึ้นไป 70% ในเดือนมิถุนายน ก่อนช่วงเดือนกันยายน จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เต็ม 3.2ล้านล้านบาท หรือได้ครบทั้ง 100%เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศทุกด้าน

**จับตาหุ้นรับเหมาก่อสร้าง

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่าต้องติดตามว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 จะเป็นอย่างไร หากต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ มองว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจการลงทุน และตลาดหุ้นเพราะการลงทุนของภาคเอกชนจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อภาครัฐได้มีการลงทุนก่อน

แต่หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาและผลักดัน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2563 ได้ เชื่อว่าจะเกิดผลดีต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงไปมาก หากงบประมาณรายจ่ายผ่านและมีการลงทุนจากภาครัฐ