สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ช่วงนี้ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ตัวปัจจัยกระทบที่มีเข้ามาส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งงบฯกลุ่มแบงก์ที่ออกมาแม้จะทรงๆ แต่ยังน่าผิดหวังโดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ หนี้เสียแนวโน้มสูงขึ้น หนำซ้ำยังมาเจอเรื่องโรคระบาด ไวรัสโคโรน่า สายพันธ์ใหม่ที่แพร่ระบาดมาจากประเทศจีน ซึ่งบ้านเราก็พบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว

ไวรัสโคโรน่าจะส่งกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลและสุดสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญชะลอลงได้ ซึ่งจะกระทบกับราคาหุ้นโรงแรม อย่าง CENTEL, ERW, MINT รวมถึงหุ้นAOTอีกด้วยที่ราคาหุ้นร่วงหนักไม่แพ้กัน

หลังจากดัชนียังไม่สามารถยืน 1,600 จุดได้ แรงขายที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ ดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ออกอาการซวนเซ ภาพของการเล่นเก็งกำไรระยะสั้น สลับหมุนเปลี่ยนตัวเล่น ที่สำคัญวอลุ่มการซื้อขายแต่ละวันก็ค่อนข้างหนาแน่นเสียด้วย อีกทั้งพฤติกรรมการลงทุนของที่อาศัยจังหวะขายทำกำไรรอบนี้ ทำเอาบรรดาขาลุยรายย่อย ที่มองว่าตลาดน่าจะกลับขึ้นไปเล่นกันเหนือ 1,600 จุด พากันผิดหวังไปตามๆกัน แสบจริงๆกองทุน

ภาวะของตลาดหุ้นช่วงเวลานี้ก็คงยังดูไม่ดีต่อเนื่องจาก ความกังวลของปัญหาที่เป็นปัจจัยกระทบต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในประเทศ จึงทำให้ตลาดหุ้นบ้านเรายังตกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายของการลงทุน นักลงทุนจึงควรต้องใช้ความระมัดระวังและติดตามปัจจัยข่าวสารที่จะมากระทบต่อการลงทุนในช่วงนี้ จนกว่าปัจจัยหรือสถานการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลายเอื้อให้การลงทุนดูสดใสและเดินหน้าต่อไปได้

สำหรับนักวิเคราะห์ในเชิงเทคนิคมีมุมมองต่อตลาดขณะนี้ว่า ดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงไปทดสอบ 1550 จุดถือเป็นแนวรับสำคัญ แต่อาจจะเกิดการรีบาวด์ขึ้นได้ในกรอบแคบ ๆ แต่การจะเข้าไปดักจังหวะเล่นเก็งกำไรกันอาจจะสร้างความเสียหายได้ โดยเฉพาะนักเก็งกำไรที่ยังมีประสบการณ์น้อย ดังนั้นนักวิเคราะห์เชิงเทคนิคจึงมีคำแนะนำให้ระวังหากจะเล่นดักจังหวะเก็งกำไรก็ควรจะลดพอร์ตการเก็งกำไรให้น้อยลงเพื่อความคล่องตัวกับการเข้าออก

แต่สำหรับในด้านพื้นฐานแล้วกลับมองว่า ในตัวหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาหุ้นยิ่งต่ำ ราคาถูก น่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สามารถถือรอคอยได้ ด้วยเพราะหุ้นที่ดี ๆ พื้นฐานแกร่งที่มีผลงานเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอนาคต แต่มีระดับราคาหุ้นที่ต่ำมากในขณะนี้นั้น จะให้ผลตอบแทนคืนกลับที่คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งในแง่ของส่วนต่างราคาหุ้น และเงินปันผลตอบแทน เพียงแต่ว่าเราจะต้องค้นคว้า วิเคราะห์ในตัวหุ้นที่เราสนใจให้รู้แจ้งเห็นจริงมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นในอนาคตโดยมีปัจจัยรองรับ เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับภาวะและปัจจัยกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุน ทั้งใหญ่และเล็ก หรือจะเรียกว่าจิตวิทยาการลงทุนก็ได้ หากแต่เราเข้าใจในที่สุดแล้ว การขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปของตลาดหุ้นบ้านเราก็จะมุ่งไปสู่หนทางที่ดีได้

นี่คือความเป็นไปของตลาดหุ้นไทย เรื่องราวต่างๆของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่จะนำพานักลงทุนให้ก้าวสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยหรือจะพาให้ไปสู่ความเสียหายหมดเนื้อหมดตัว ทั้งหลายทั้งปวงก็ขึ้นอยู่ที่นักลงทุนแต่ละคนต้องจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบที่ทำให้การลงทุนเสียหาย รวมถึงต้องค้นคว้า เรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้สามารถต่อสู้ในสนามหุ้นที่พร้อมให้เราได้เข้าไปคว้าหาความสำเร็จ และหลีกหนีความเสี่ยงที่จะทำให้เราเสียหายได้

ดังนั้นการจะสู้กับหุ้นจึงต้องรู้จักระมัดระวังดูทางหนีทีไล่ให้ดี ลดพอร์ตการลงทุนให้น้อยลงถือเงินสดให้มาก เป็นสูตรตายตัวสำหรับการเล่นหุ้นขาลงอย่าซื้อถัวขาลงเด็ดขาด คอยจับตาดูสถานการณ์ ไม่ผลีผลามสู้แบบไม่กลัวตาย ในขณะเดียวกันหากเมื่อไหร่ตลาดหุ้นเปลี่ยนทิศเป็นเป็นขาขึ้น พวกเราก็ลุยกันให้เต็มที่ ไขว้คว้าหากำไร สร้างความร่ำรวยที่เต็มไปด้วยด้วยความมั่นใจต่อแนวโน้มของตลาดที่เป็นขาขึ้นและต้องมีเหตุมีผลรองรับได้นะครับ ก็จะทำให้เราสามารถอยู่ในสนามหุ้นแห่งนี้พร้อมกับสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยกันได้ครับ