> SET > ERW

22 มกราคม 2020 เวลา 10:14 น.

โบรกฯ คาดหุ้นกลุ่ม "โรงแรม-การบิน" ได้รับผลกระทบไวรัสโคโรนา แนะหลีกเลี่ยง-ชะลอการลงทุน

สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า โบรกคาด "หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว" ได้รับผลกระทบจากความกังวล "ไวรัสโคโรนา" คาดเหตุการณ์จะคล้ายในอดีต คือ เป็นลบ(-) ต่อหุ้นในกลุ่ม  "การบิน" และ "โรงแรม" แนะนำหลีกเลี่ยง ระยะสั้นจึงให้ชะลอการลงทุน


บล.ไทยพาณิชย์ ระบุ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.63) หลังจากจีนยืนยันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถแพร่กระจายผ่านการติดต่อจากคนสู่คนได้ หุ้นกลุ่มโรงแรมปรับตัวลดลงมากที่สุด; ERW -10%, CENTEL -6% และ MINT -5% ตามด้วยกลุ่มการบิน; AAV THAI และ AOT ลดลงหุ้นละ 3% 


ทั้งนี้ในระยะสั้นคาดว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความรวดเร็วของการแพร่ระบาดและประสิทธิภาพในการรับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวใช้เวลา 4-5 เดือนจึงฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดดีขึ้น


การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาด เรามองว่าการท่องเที่ยวไทยจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในระยะสั้น หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนยืนยันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ เรื่องนี้เป็นข่าวร้ายและส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เนื่องจากมีความกังวลว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเหมือนกับเมื่อครั้งที่เกิดโรคระบาดก่อนหน้านี้:


วันที่ 21 ก.พ. 2546 ฮ่องกงตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) รายแรก การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยปรับตัวลดลง 5-49% YoY ในเดือนมี.ค.-ก.ค. 2546 โดยลดลงมากที่สุดในเดือนพ.ค. ในช่วงเวลาดังกล่าว หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวปรับตัวลดลงอย่างมาก: -21% สำหรับ MINT, -16% สำหรับ THAI, -15% สำหรับ CENTEL และ -13% สำหรับ ERW


วันที่ 18 มิ.ย. 2558 ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) รายแรกในประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับ International Civil Aviation Organization (ICAO) จัดให้ประเทศไทยอยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศที่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) ปัจจัยลบเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยราคาหุ้น THAI ลดลง 16%, MINT -15%, AOT -14%, ERW -11%, CENTEL -11% และ AAV -10%


จับตาความรุนแรงของการแพร่ระบาด การศึกษาของเราพบว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวใช้เวลา 4-5 เดือนจึงฟื้นตัวสู่ระดับก่อนพบการระบาดของโรคซาร์ส เมื่ออิงกับข้อมูลปัจจุบัน การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รุนแรงน้อยกว่าซาร์ส เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานยืนยันถึงการแพร่ระบาดลุกลามสู่ชุมชน และองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีการประกาศห้ามเดินทางแต่อย่างใด 


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มแรก และสิ่งสำคัญที่ต้องจับตา คือ ความรวดเร็วในการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งนี้ และประสิทธิภาพในการรับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทุกประเทศได้รับการส่งเสริมให้เพิ่มความเข้มข้นในการเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจคัดกรองสุขภาพและสถานการณ์ฉุกเฉิน 


สำหรับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนแถลงยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จำนวน 291 ราย และเสียชีวิต 6 รายในจีน (อัตราการเสียชีวิต ~2%) ในขณะที่เมื่ออิงกับข้อมูลของ WHO พบว่ามีผู้ติดเชื้อซาร์สรวม 8,098 รายทั่วโลกในระหว่างเดือนพ.ย. 2545-ก.ค. 2546 และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าว 774 ราย (อัตราการเสียชีวิต ~10%)


บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS  แนะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นการบิน-ท่องเที่ยว 

ทั้งนี้ เหตุจาก "ไวรัสโคโรนา 2019" ระบุต่างประเทศประเด็นร้อนแรงที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐาน  โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐ คือ การระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019  ระบาดคนสู่คน(Human-to-Human)ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิด “โรคปอดอักเสบ”  จุดกำเนิดถูกระบุว่าอยู่ใน เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนและขยายวงกว้างขึ้น  


ล่าสุด  พบจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 291 คน และมีผู้เสียชีวิต 6 คน   ล่าสุด  ในสหรัฐ พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย และเอเซียหลายประเทศ อาทิ ปักกิ่ง, เกาหลีใต้ โตเกียว เป็นต้น  ASPS  คาดเป็นความเสี่ยงกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติไทยในอนาคต  แม้ตัวเลขผู้ใช้บริการสนามบินของ AOT ระหว่าง  1-18 ม.ค. 63 แม้ขยายตัว  1.7%yoy ดีขึ้นจาก ธ.ค. 62 ที่ทรงตัว (+0.6%yoy) เชื่อว่ามีโอกาสชะลอลงในอนาคต ซึ่งต้องติดตามต่อการควบคุมการแพร่กระจายของโรคว่าจะทำได้รวดเร็วเพียงใด คาดกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางไปทั่วโลกซึ่งมีกว่า 180 ล้านคน/ปี


หากพิจารณาในอดีต

ปี 2546 เกิดเหตุการณ์โรคเชื้อไวรัสโคโรนาคล้ายกัน คือ โรคซาร์ส (SARS)  ซึ่งโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง เริ่มจากพื้นที่มณฑลกวางตุ้งของจีนเช่นกัน  และกระจายไปหลายประเทศ  ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 774 คน จากจำนวนผู้ป่วย  8,098 คน ระยะพบเจอโรค SARS  จนกำจัดโรคหมดราวเวลา 8 เดือน พ.ย.2545-ก.ค.2546ในครั้งนั้นกระทบต่อภาคท่องเที่ยวไทยพบว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยปี 2546 ลดลง 7%yoyและนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยลดลงถึง 24%yoy(ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนสัดส่วนราว 28%ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย เทียบกับปี 2546 สัดส่วนราว 6-7%)


ปี 2555 โรคเชื้อไวรัสโคโรนา คือ โรคเมอร์ส (MERS-Cov)  เริ่มต้นมาจากตะวันออกกลาง และระบาดทั่วโลก ผู้เสียชีวิต 1800 คน จากจำนวนผู้ป่วย 787 คนแต่ในครั้งนั้นไม่กระทบภาคท่องเที่ยวไทยพบว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยปี2556 ขยายตัว 19%yoyและนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น 66%yoyเนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัว และนักท่องเที่ยงยังไม่กังวลต่อโรคนี้เท่าไหร่นัก

ในรอบนี้คาดเหตุการณ์จะคล้ายในอดีตคือ เป็นลบ(-) ต่อหุ้นในกลุ่มคือ 

(-)การบิน  การเดินทางท่องเที่ยวมีความเสี่ยงชะลอตัว  ASPS คาดมีความเสี่ยงสูงกระทบต่อผู้ที่มีรายได้จากลูกค้าจีน  โดยปัจจุบัน AAV,AOT,THAI และ BA ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากจีนราว 30%, 15%, 8% และ 2% ตามลำดับ ภาพรวม ยังคงให้น้ำหนักการลงทุน “น้อยกว่าตลาด” ระยะสั้นจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในกลุ่มการบินไปก่อน 


(-)ท่องเที่ยวและโรงแรม   แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ โดยกระทบหุ้นในกลุ่มทุกตัว โดยเฉพาะ ERW([email protected]) เพราะมีสัดส่วนรายได้มาจากโรงแรมในประเทศมากสุดราว  90%ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ MINT(FV@B 40)และ CENTEL(FV@B 35)กระทบเช่นกัน โดย MINT เนื่องจากธุรกิจมีการกระจายคือ รายได้จากโรงแรมสัดส่วนราว 73%ของรายได้ทั้งหมด  และ ธุจกิจอาหารและเครื่องดื่ม 19% และอื่นๆ 8%   ขณะที่ CENTEL รายได้จากโรงแรมราว 40%ของรายได้ทั้งหมด  แต่มีสัดส่วนจากธุรกิจอาหารสูง 60%



จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X