ตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าสู่โหมดของการปรับฐาน หลังตลาดตอบรับปัจจัยต่างๆไปมากแล้ว อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆอะไรเข้ามาแม้จะพยายามกลับขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จแรงขายยังมี โดยเฉพาะคนที่ติดหุ้นอาศัยจังหวะ หุ้นเด้งก็ชิงจังหวะขายเอาไว้ก่อน นั่นแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงไม่เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะสามารถเดินหน้าไปต่อได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มหุ้นสุดร้อนแรงเมื่อปีที่แล้ว ที่ว่ากันว่าปีนี้น่าจะไปต่อลำบากแล้ว ก็ดูจะไม่สนใจภาวะปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น เริ่มปีใหม่ไม่นานก็มีแรงขยับวิ่งกันฝุ่นตลบอีกแล้ว สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า โดย 3 ตัวนำโดดเด่นทั้ง GULF ,BGRIM และ GPSC ที่ต่างพากันทำราคาสูงสุดใหม่กันทุกตัว ดูท่าจะเป็นปีทองอีกปีของกลุ่มนี้อีกแล้วล่ะครับ

โดยนักวิเคราะห์ต่างพากันแนะนำ เก็บหุ้นโรงไฟฟ้าเข้าพอร์ตอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นในภาพรวมยังมีภาวะเสี่ยง และยังไม่มีหุ้นกลุ่มไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากนี้กลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่มีกำไรสม่ำเสมอและมีปัจจัยบวกจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ๆที่จะมีการรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่องเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จึงส่งผลให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากนั่นเอง

GULF เป็นหุ้นโรงไฟฟ้า มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 412,793 ล้านบาท ที่ราคา 193.50 บาท ซึ่งสูงที่สุดในตลาดหุ้นไทยวันนี้ จากในช่วงที่เข้าตลาดฯ ที่อยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง ที่ราคาไอพีโอ 45 บาท สำหรับผลการดำเนินงานปี 62 นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรจะไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทถือว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปี 61 เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังคาดว่าผลการดำเนินในอนาคตยังคงเห็นการเติบโตได้อีก ผ่านทางการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จนต้องปรับราคาเป้าหมายพุ่งขึ้นเป็น 200 บาท จะว่าไปก็เหลืออัพไซด์จากราคาปัจจุบันไม่เยอะ แต่เชื่อเถอะราคาทะลุเกิน 200 บาทแน่นอน จากแนวโน้มที่เป็นอยู่ เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วสำหรับหุ้นตัวนี้

BGRIM หุ้นโรงไฟฟ้าอีกตัวที่ราคาพุ่งทำนิวไฮเช่นกัน ตัวนี้นักวิเคราะห์มองว่า เป็นธุรกิจโรงงานไฟฟ้าที่มีความแน่นอนในเรื่องของการรับซื้อไฟฟ้าจากลูกค้า เพราะสัญญาที่บริษัททำกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนนั้นเป็นสัญญาระยะยาว ดังนั้นรายได้ของบริษัทจะสม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ตามการผลิตไฟฟ้า จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาวส่วนราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง หากเทียบกับโรงไฟฟ้าตัวอื่นก็นับว่ายังถูกกว่า ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากราคาหุ้นยังไปต่อ แม้ราคาจะเกินเป้าหมายนักวิเคราะห์ให้ไว้ไปแล้ว

GPSC ก็เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าอีกตัวที่แม้จะออกตัวช้ากว่าเพื่อน แต่ก็มาแรงแซงทางโค้งแบบไม่ถอนคันเร่งเหมือนกัน หลังจากซื้อ GLOW มาเสร็จเรียบร้อย นักลงทุนก็แห่พากันซื้อไล่เก็บหุ้นเข้าพอร์ตกันสนุกสนาน โดยมองว่าการซื้อGLOW นั้นจะช่วยหนุนผลการดำเนินงาน ช่วยเพิ่มมูลค่าของGPSC ให้เพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคตอีกทั้งด้วยแบ็คอัพแน่นปึ้ก ของกลุ่ม ปตท. ก็การันตีความแข็งแกร่งในทุกๆด้านอยู่แล้ว สะท้อนด้วยราคาหุ้นที่พุ่งทะลุนิวไฮไปอีกตัวด้วยเช่นกัน

สรุปว่า โดยทั่วไปแล้วธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่เข้าใจได้ไม่ยาก ดูแค่ขายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อไหร่ก็บันทึกรายได้และผลกำไรทันทีและดูว่าสัญญาขายไฟฟ้าในมือมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะเป็นสิ่งการันตีผลประกอบการในอนาคตนั่นเอง รวมถึงเป็นหุ้นที่มีความมั่นคงสูง เนื่องจากมีสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาว จึงจัดเป็นหุ้นที่มีความปลอดภัย ( Defensive Stock) ยิ่งในยามตลาดมีความผันผวน ยิ่งน่าสนใจสะสมลงทุน โดยเฉพาะ 3 ตัวที่ว่ามามักจะมาพร้อมๆกัน มีความโดดเด่นไม่แพ้กันทั้งในแง่ความมั่นคงของรายได้ การเติบโตในอนาคตที่คาดหวังได้ แม้กระทั่งราคาหุ้นก็ไม่มียอมแพ้กัน โชคดีครับ