> SET > TTA

22 พฤศจิกายน 2019 เวลา 12:07 น.

TTAดีลซื้อกิจการอัพแกร่ง ย้ำมาตรการIMOไม่กระทบ

ทันหุ้น –TTA มองภาพธุรกิจเดินเรือปี 2563 ยังเป็นบวกจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ยันมาตรากร IMO ไม่กระทบธุรกิจเดินเรือ ด้านธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งมีมูลค่างานในมือประมาณ 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบุมองโอกาสเข้าซื้อกิจการในกลุ่มธุรกิจให้บริการวิศวะกรรมใต้น้ำต่อยอดการเติบโต นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ทิศทางกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ (Shipping) ในปี 2563 ยังเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการใช้เรือที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทคาดว่ากลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือคาดว่าจะได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากดัชนีบอลติค (BDI) ที่ในช่วงไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 2,030 จุด ที่ทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ 2,518 จุด ในไตรมาส 3/2562 สาเหตุเหตุมาจากการนำเข้าสินแร่เหล็กทางทะเล ของประเทศจีน *มาตรการ IMO ไม่กระทบ ขณะเดียวกันก็คาดว่าปริมาณเรือในระบบมีการเติบโตที่จำกัด จากมาตรการ IMO 2020 ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization: IMO) ออกกฎระเบียบเชื้อเพลิงกำมะถันในการลดกำมะถันให้เหลือ 0.5% จากปัจจุบัน 3.5% เพื่อลดมลพิษทางอากาศที่จะเริ่มใช้ 1 มกราคม 2563 โดยคาดว่าจะมีเรือเข้าอู่เพื่อไปติดตั้งตัวแปลงเพื่อจำกัดกำมะถันตามาตรฐาน โดยปัจจุบันมีเรือทั่วโลกเพียง 6% เข้ารับการติดตั้งเพื่อรองรับมาตรากร IMO 2020 ส่วนเรืออีกกว่า 90% ยังยืนยันการใช้น้ำมันแบบเดิม ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันเตาแบบกำมะถันต่ำจะมีมูลค่าที่สูง และจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่บริษัทได้มีการเพิ่มในค่าบริการไปแล้ว ทั้งนี้บริษัทมองว่าในปี 2563 จำนวนดีมานด์และซัพพลายของเรือยังอยู่ในระดับที่สมดุล จึงมองว่าไม่น่ากระทบธุรกิจมากนัก ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือมีกองเรือจำนวน 21 ลำ มีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 55,285 เดทเวทตัน และมีอายุเฉลี่ย 12.21 ปี *หาดีลซื้อกิจการ ส่วนสำหรับธุรกิจบริการนอกชายฝั่งภายใต้ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ ยังมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างมองหาโอกาสเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในกลุ่มธุรกิจให้บริการวิศวะกรรมใต้น้ำภายใต้บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ ซึ่งบริษัทมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง โดยมีหนี้สิ้นที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) 0.07% ด้านกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร (PMTA) คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นตามไฮซีซันฤดูกาลในการซื้อขาย โดยบริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มรายได้ในตลาดส่งออกและในประเทศ และเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ส่วนทางด้านธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยคาดว่าธุรกิจ พิซว่า ฮัท จะเริ่มมีกำไรสุทธิ หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 144 สาขา ขณะที่ธุรกิจทาโก้ เบลล์ หลังจากที่ล่าสุดได้เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 4 สาขา และมีแผนจะขยายจนครบ 5 สาขาในปี 2562  
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X