Company Background
บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) “SONIC” หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมากกว่า 24 ปี ครอบคลุมการให้บริการรับขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศรองรับการขนส่งทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยเป็นผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (International Logistics Services Provider) ผ่านทางทะเลและอากาศ รวมทั้งการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศและข้ามพรมแดน และมีศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าตั้งอยู่ที่ถนนกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำตลาดการให้บริการโลจิสติกส์ในกลุ่มอาเซียน
Key Development of Company
2538 ก่อตั้ง บจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท
2551 - 2552 เพิ่มบริการขนส่งทางบก ลงทุนรถหัวลาก 23 คัน ซื้อที่ดินกิ่งแก้วเพื่อให้บริการศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า และเปิดบริการพื้นที่ปลอดภาษี (Free Zone)
2558 ก่อตั้ง บจ.แกรนด์ลิงค์ ลอจิสติกส์ (Grandlink) จากการควบรวมบริษัท โดยเน้นการให้บริการแบบ LCL และเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าในโซนทวีปอเมริกา
2559 - 2560 ลงทุนรถหัวลากเพิ่มเป็น 63 คัน ซื้อที่ดินกิ่งแก้ว และการขยายการลงทุนธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังกัมพูชา รวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ไร่
2561 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อ 19 ตุลาคม 2561 จัดตั้งพื้นสำนักงานแห่งใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซื้อที่ดินและอาคารเพื่อเป็นอาคารสาขาที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี
2562 ซื้อที่ดิน 21 ไร่ โครงการปิ่นทอง แลนด์ จ.ชลบุรี เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการลูกค้าในเขตEEC และ ลงทุนรถหัวลากเพิ่มเป็น 86 คัน
Business Plan
- เพิ่มทีมงานการตลาด และฝ่ายสนับสนุน เพื่อขยายฐานลูกค้า
- ขยายฐานพันธมิตรทางการค้าในประเทศและต่างประเทศ
- ปรับปรุงและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า ให้มีความทันสมัย เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- รองรับปริมาณการขนส่งทางบกและข้ามพรมแดน ด้วยการเพิ่มจำนวนรถหัวลากและหางลาก
- ซื้อและพัฒนาที่ดิน โครงการปิ่นทอง แลนด์ จ. ชลบุรี เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC)
- เปิดหน่วยธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ เพื่อสินค้าอันตราย (DG Services)
Investment Highlight
- การให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) โดยเป็นผู้ให้บริการแบบผสมผสานจากการบริการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ รวมทั้งครอบคลุมการให้คำปรึกษาเรื่องกฎเกณฑ์และวิธีการเข้าและส่งออก โดยมีศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าอยู่ที่ถนนกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ
- มีเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวาง ซึ่งมีพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจรวมกันมายาวนานในต่างประเทศกว่า 269 รายครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก รวมทั้งกลุ่มบริษัทยังเป็นสมาชิกของ The Cooperative Logistics Network และ Global Affinity Alliance(GAA)
- บุคลากรมีความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญในด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการให้บริการ พร้อมให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เพื่อสร้างความพึ่งพอใจในการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ
- มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการขนส่ง โดยมีการคัดเลือกพนักงานขับรถที่มีประสบการณ์ ควบคู่กับยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน และมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
SONICทุ่ม200ล.ขยายคลังสินค้า
ปั๊มมาร์จิ้นพุ่ง-หนุนผลงานแกร่ง
ทันหุ้น – SONIC อัดฉีดงบ 200 ล้านบาท ขยายคลังสินค้าเพิ่ม 1.3 หมื่นตารางเมตร จากปัจจุบันใช้เต็มแล้ว 5.5 พันตารางเมตร บอสใหญ่ “สันติสุข โฆษิอาภานันท์” ชี้ธุรกิจเช่าคลังสินค้าหนุนมาร์จิ้นสูง ดันผลงานแข็งแกร่ง ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 20% รับทรัพย์นิคมปิ่นทองเต็มปี
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONICเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขยายพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าอีก 1.3 หมื่นตารางเมตร จากปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ให้บริการแล้ว 5.5 พันตารางเมตร และถูกใช้พื้นที่เต็มจำนวนแล้ว ทั้งนี้พื้นที่ 1.3 หมื่นตารางเมตรมีลูกค้าสนใจเช่าพื้นที่ 2 ราย ขนาด 3 พันตารางเมตร 1 ราย และ 1 หมื่นตารางเมตร 1 ราย โดยบริษัทคาดจะใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท
คลังสินค้าหนุนมาร์จิ้น
บริษัทคาดธุรกิจเช่าคลังสินค้าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของมาร์จิ้นให้แข็งแกร่งในปี 2563 เพราะค่าใช้จ่ายในธุรกิจดังกล่าวไม่มาก อยู่เพียง 10-15% ส่วนที่เหลือ 85% จะรับรู้เป็นกำไรและรายได้จากการให้บริการ แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจเช่าคลังสินค้ายังมีสัดส่วนไม่มาก เพราะธุรกิจหลักของบริษัทคือการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร
ขณะที่ทิศทางธุรกิจและผลประกอบการในปี 2563 บริษัทคาดจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% ต่อจากปี 2562 สำหรับการเติบโตจะมาจากการรับรู้รายได้นิคมปิ่นทองเข้ามาเต็มปี รวมถึงการรับรู้รายได้การขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า นอกจากนี้บริษัทคาดอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) ปี 2563 จะสูงกว่าปี 2562 ตามการรับรู้รายได้จากธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
อนึ่ง บริษัทได้เข้าพัฒนาที่ดินในนิคมปิ่นทอง จำนวน 21 ไร่ คิดเป็นพื้นที่รวม 34,529.60 ตารางเมตร เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่ อำเภอศรีราชา และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ปัจจุบันบริษัทได้เจรจากับลูกค้าทางฝั่ง EEC ไปแล้ว คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 2563
ทิศทางธุรกิจโค้งท้าย
ส่วนทิศทางธุรกิจช่วง 2 เดือนสุดท้ายจะทรงตัวจากที่ผ่านมา เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว บริษัทจะพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีจำนวนลูกค้าอยู่ราว 1 พันราย และเป็นลูกค้าประจำอยู่ที่ราว 400-500 รายที่ยังใช้บริการขนส่งเป็นประจำ
ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ บริษัทคาดผลประกอบการจะเติบโตสูงกว่าปีก่อนที่ 1.15 พันล้านบาทโดยการเติบโตจะมาจากการขยายฐานการให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ขยายพื้นที่ ด้านลานจอด คลังเก็บสินค้า และการเพิ่มรถบรรทุกหัวลากเป็น 80 กว่าหัวลาก และหางลาก 180 หางลาก
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล 60% การขนส่งสินค้าทางบก 25% และการ ขนส่งทางอากาศและอื่นๆ 15%
สำหรับสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน คาดจะส่งผลต่อธุรกิจขนส่งเล็กน้อย โดยเฉพาะการขนส่งในกลุ่มอุตสาหกรรม แต่กลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนเป็นสินค้าที่บริษัทขนส่งเล็กน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่บริษัทให้บริการขนส่ง ขณะที่ทิศทางการส่งออกชะลอตัวอาจกระทบต่อมูลค่าเงิน แต่ในแง่ปริมาณการขนส่งยังทรงตัว