> SET > PDG

27 มิถุนายน 2018 เวลา 16:46 น.

PDGงัดไม้เด็ดอัพราคาขายโบรกชี้เป็นหุ้นปันผลสูง7%

ทันหุ้น - PDG งัดกลยุทธ์เด็ดครึ่งปีหลัง ปรับราคาขายเพิ่ม 5% ด้านบอสใหญ่ “ธงชัย ตันสุทัตต์” ส่งสัญญาณผลงานโตเด่น เล็งขยายฐานผลิตบุกภูธร โชว์เงินสดในกระเป๋า 200 ล้านบาท เชื่อเพียงพอต่อการลงทุนชัวร์ พร้อมปักหมุดยอดขายปีนี้โต 15% ฟากโบรกชี้เป็นหุ้นปันผลสูงเฉลี่ย 6-7% แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 4.50 บาท นายธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG เปิดเผยว่า คาดผลประกอบารครึ่งปีหลังของปี 2561 จะเติบโตดีกว่ากว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนวัตถุดิบ ราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง อีกทั้งบริษัทไม่ได้ปรับราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับราคาต้นทุน ทำให้ทิศทางอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit margin) ช่วงครึ่งปีแรกอาจจะปรับตัวลดลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามบริษัทจะพยายามประคองอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 20% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 10-12% งัดไม้เด็ดดันงบครึ่งหลัง “แนวโน้มไตรมาส 2/61 หากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนอาจจะสู้ไม่ได้ เพราะเจอราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เรายังไม่ได้ปรับราคาขายเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 แต่เราเริ่มมาปรับราคาขายเพิ่มขึ้นและจะเห็นยอดขายที่กลับมาชดเชยส่วนที่หายไปได้ก็ในช่วงไตรมาส 3/61 ทำให้ภาพรวมครึ่งปีหลังคาดว่าผลงานน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก”นายธงชัยกล่าว ขณะที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครึ่งหลัง นอกจากจะปรับราคาขายให้สอดคล้องกับราคาต้นทุนแล้ว บริษัทจะเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์พรีฟอร์ม อาทิ ลูกค้าในกลุ่มน้ำดื่ม น้ำมันพืช โดยบริษัทได้ติดตั้งเครื่องจักรและเริ่มมองหาฐานลูกค้าเพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) มาแล้วในหลักร้อยล้านบาท คาดจะทยอยส่งมอบสินค้าและรับรู้รายได้เข้ามาได้ในช่วงต่อจากนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังได้มีการขยายฐานธุรกิจไปต่างจังหวัด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแผนการขยายธุรกิจดังกล่าว ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดในมืออยู่ที่ราว 200 ล้านบาท หากต้องการขยายธุรกิจ คาดจะเพียงพอต่อการลงทุนแน่นอน ส่วนที่จะขยายไปจังหวัดใดนั้นยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจยอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 15% จากปีก่อนมียอดขายที่ 653.61  ล้านบาทโดย 3 เดือนแรกบริษัทมียอดขายแล้วที่ 178.18 ล้านบาท สำหรับการเติบโตดังกล่าวจะมาจากการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น ไม่มีแผนลงทุนเพิ่ม นายธงชัย กล่าวต่อว่า ช่วงครึ่งปีหลังหรือช่วงต่อจากนี้ บริษัทยังไม่มีแผนจะลงทุนอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทต้องการโฟกัสเครื่องจักรใหม่ที่ติดตั้งไปในช่วงต้นปี 2561 และการจำหน่ายสินค้าในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมองเห็นศักยภาพและช่องทางการจำหน่ายสินค้าในประเทศยังมีอยู่มาก บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/2561 คิดเป็น 26% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2561 ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยที่เคยทำได้ในอดีต ฝ่ายวิเคราะห์จึงยังคงประมาณการเดิมที่ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนไว้ก่อนโดยถึงแม้ราคา PET ในประเทศจะทรงตัวที่ระดับสูง 45 บาท/ก.ก. ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ราว 40 บาท/ก.ก. แต่การปรับราคาขายขึ้นที่สามารถชดเชยการปรับขึ้นของต้นทุนได้บางส่วน และผลจากประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นช่วงที่เหลือของปีจะไม่ผันผวนเหมือนกลางปี 2560 อีกทั้ง การเริ่มผลิตและส่งมอบหลอดพรีฟอร์มที่เป็นสินค้าใหม่ในครึ่งปีหลังปี 2561 คาดว่าจะช่วยหนุนกำไรในช่วงแรกไตรมาสละ 1-2 ล้านบาทด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับฐานกำไรที่ต่ำมากในไตรมาส 2-3/2560 จึงคาดว่ากำไรสุทธิ ไตรมาส 2-3/2561 จะกลับมาโตแรง 17% และ 40% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนตามลำดับที่ราคาหุ้นปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็น PE2018 เพียง 13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่15 เท่า และให้ปันผลสูงราว 6-7% ต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุน จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X