กลยุทธ์การลงทุน:
- เราประเมิน SET ในช่วงเดือนธันวาคมจะผันผวนสูงอยู่ในกรอบ 1590-1650 จุด ทิศทางตลาด จะขึ้นกับผลการทำข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน เป็นหลัก ถ้าทำได้ก่อน 15 ธ.ค. ที่เป็นเส้นตายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 59 แสนล้านเหรียญหุ้นจะขยับขึ้น (สูงสุด 1670) แต่ถ้าเลื่อนออกไปตลาดจะกลับ trade ใกล้ๆ 1600 จุด ตัวแปรด้านเศรษฐกิจ ไม่ช่วยตลาดได้มากนัก จึงอยู่ที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพียงอย่างเดียว
- เราแนะนำจัดพอร์ต 50% เป็น Defensive อีก 50% เป็น Alfa ที่ Link กับ Trade talk และกิจการค้าขายกับจีน
- ทีม KTBST ให้ความสนใจต่อหุ้นดังต่อไปนี้ BCH, CPF, SPALI, TASCO
ทิศทางและปัจจัยสำคัญ:
- (+) ดัชนีฯลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำ พร้อมจะขึ้นถ้ามีข่าวบวก
- (+) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มดีขึ้น จาก Supply ที่หายไปจากสหรัฐและOPEC ที่จะประชุม 5 ธ.ค.น่าจะยืดลดกำลังผลิตอีก 3 เดือน ประกอบกับ Net long position ในตลาดล่วงหน้าปรับขึ้นต่อเนื่อง
- (+) โค้งสุดท้ายของการซื้อ LTF
- (+/-) การเจรจาทำข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังไม่ชัดเจน ข่าวช่วงปลายเดือนก่อน(พ.ย.) เป็นโทนลบ ส่งผลให้มีการชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ต่อเนื่องจนถึงเดือนนี้
- (+/-) หุ้นที่เป็นที่ต้องการของนักลงทุนราคาปรับขึ้นมามาก (ทำให้โอกาสขึ้นแรงๆมีน้อยลง เช่น โรงไฟฟ้า)
- (+/-) ติดตามผล Trump’s Impeachment /ความคืบหน้า BRExit/และสถานการณ์ฮ่องกงหลังสหรัฐฯประกาศใช้กฎหมายสนับสนุนการประท้วง
- (+/-) Fed อาจไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้แล้ว
- (-) เศรษฐกิจโลกและไทยได้รับผลกระทบจาก Trade War ชัดเจนตั้งแต่ 2Q/19
- (-) เสถียรภาพของรัฐบาล และมาตรการเศรษฐกิจ ยังไม่เป็นบวกต่อตลาดหุ้น