#THANI #ทันหุ้น THANI ชี้ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังโต ย้ำเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 18,000-20,000 ล้านบาท โบรกมองไตรมาส 1/2567 สินเชื่อชะลอตัว ตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะลดลงได้ในช่วงที่เหลือของปีไม่กระทบกำไร คงพื้นฐาน 2.60 บาท

นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีเเรก เนื่องจากทางภาครัฐมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยก็คาดว่าจะเห็นการปรับลดลงได้ในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3%

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2567 คาดทรงตัวจากไตรมาส 1/2567 หลังคุณภาพหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ดีขึ้น โดย NPL ในไตรมาส 1/2567 ทรงตัวจากไตรมาส 4/2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3% 

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท และ มีแผนออกหุ้นกู้อีกในช่วงไตรมาส 3-4 ซึ่งบริษัทเองก็ยังต้องจับตาภาวะอัตราดอกเบี้ยรวมถึงภาวะตลาดและความต้องการสินเชื่อในอนาคต โดยหุ้นกู้ของบริษัทถือว่าเป็นที่ต้องการของนักลงทุนเนื่องจากมีเรทติ้งที่ดี สะท้อนเงินทุนที่มีความแข็งแกร่ง ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการผิดนัดชำระหนี้

*เป้าสินเชื่อใหม่

สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) ที่ 18,000-20,000 ล้านบาท โดยหลักจะมาจากการปล่อยสินเชื่อของรถบรรทุก ที่มีความต้องการใช้งานมากขึ้น ทำให้มียอดเติบโตอย่างมาก สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ราว 2-3% การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น 

โดยปีนี้ภาพรวมน่าจะมีทิศทางที่ดีส่วนการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มรถหรู หรือซูเปอร์คาร์ เติบโตได้เช่นเดียวกัน โดยสัดส่วนของการปล่อยสินเชื่อรถซูเปอร์คาร์อยู่ที่ประมาณ 15-20% โดยปีนี้สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย

ในส่วนของพอร์ตสินเชื่อคงค้างปีนี้ คาดจะอยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท ที่ลดลงเนื่องจากมีส่วนของการคืนหนี้เข้ามา ด้านหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) จะรักษาระดับให้ไม่เกิน 3% โดยมีการคัดคุณภาพของลูกหนี้มากขึ้น 

ขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้นั้น ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าข่ายหนี้สงสัยจะสูญ บริษัทมีมาตรการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นทุนการเงินได้ในระดับที่ดี อยู่ที่ราว 3.2% โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มลดลง

*พื้นฐาน 2.60 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ไตรมาสที่ 1/2567 สินเชื่อที่ชะลอตัว ต้นทุนดอกเบี้ย และตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น จะทำให้กำไรลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2566ค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองที่ลดลงจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น จากไตรมาสที่ผ่านมา โดยสินเชื่ออาจจะเติบโตน้อยกว่า ไตรมาส 1/2566 แต่จะฟื้นตัวจากไตรมาส 4/2566

ในขณะที่การตั้งสำรองจะยังสูงอยู่ แต่คาดว่าน่าจะลดลงได้ในช่วงที่เหลือของปี ทำให้คงประมาณการกำไรปี 2567 ไว้ที่เดิม ถึงแม้ว่ากำไรในไตรมาสที่ 1/2567จะคิดเป็น 15% ของทั้งปี ฝ่ายวิเคราะห์คงราคาพื้นฐาน 2.60 บาท แนะนำ ซื้อ