> SET >

26 เมษายน 2024 เวลา 09:37 น.

3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

#ภาวะหุ้น #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซียไซรัส มองโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,358-1,370 จุด แม้บรรยากาศการลงทุนจะมีแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐฯที่ปรับตัวลง หลังประกาศตัวเลข GDP 1Q24 ออกมาต่ำกว่าคาดที่ +1.6% q-q SAAR (ตลาดคาด +2.5% q-q SAAR) ขณะที่เงินเฟ้อ Core PCE 1Q24 ออกมาสูงกว่าที่ที่ +3.7% annualized (ตลาดคาด +3.4%) ทำให้เกิดความกังวลต่อภาวะ Stagflation ซึ่งส่งผลให้ Bond Yield ขยับตัวขึ้นโดยล่าสุดอายุ 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 5% และ 4.7% ตามลำดับ จากความกังวล FED อาจลดดอกเบี้ยได้ช้าและเลื่อนเป็นช่วงปลายปี


อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดัน GDP สหรัฐฯอาจไม่ได้น่ากังวลนักเนื่องจากเกิดจากส่วนของ Inventory ที่ลดลงและการนำเข้าที่สูงขึ้น โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้คือตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE เดือน มี.ค. ตลาดคาด +0.3% m-m, +2.6% y-y ส่วนปัจจัยในประเทศรอติดตามตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค. ที่คาดประกาศในวันนี้หรือต้นสัปดาห์หน้า รวมถึงการทยอยคาดการณ์และประกาศผลประกอบการ 1Q24 ของฝั่ง Real Sector ที่จะทยอยหนาแน่นขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งโดยรวมคาดเห็นการฟื้นตัวที่ค่อนข้างดี


กลยุทธ์เราจึงเน้นเลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีแนวโน้มกำไรโดดเด่นกว่าตลาดและกระทบจากความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกจำกัด เรายังมองกลุ่ม Domestic Play ยังน่าสนใจ โดยคาดได้อานิสงส์เชิงบวกจากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่จะทยอยเร่งตัวใน 2Q24-2H24 ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 นโยบาย Digital Wallet ที่จะเริ่มใช้จ่ายใน 4Q24


กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไร 1Q24 โดดเด่น // ส่วนที่สะสมไปแล้วบริเวณ 1,350+- ยังถือลงทุน

หุ้นเด่นเดือน เม.ย.:  BA, CPALL, CPN, ITC, TIDLOR

FSSIA Portfolio :  AOT, BCH, CPALL, CPN, GPSC, NSL, SHR, SJWD, and TIDLOR


หุ้นเด่นวันนี้ : CPN

• แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 83 บาท

• เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ CPN ในช่วงปี 2024-26 จากธุรกิจศุนย์การค้าที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อีกแรงหนุนการเติบโตจะมาจากธุรกิจ Residential ตามแผนเปิด 10 โครงการใหม่ในปี 2024

• ระยะสั้นคาดกำไร 1Q24 ยังแข็งแกร่ง โดย CPN มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งที่นครสวรรค์และนครปฐมใน 1Q24 และในปี 2025 มีแผนเปิดเพิ่มที่กระบี่และ Dusit Central Park คาดหนุนรายได้ค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง เราคาดกำไรปกติปี 2024-26 เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ราคาหุ้นเทรด PER ต่ำเพียง 17.5 เท่าเทียบกับอดีตที่กว่า 20 เท่า

• แนวรับ 61-60.50 บาท แนวต้าน 65//67-68 บาท


บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ มีแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง GDP สหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด นักลงทุนรอดูตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ  โดยเหตุผลหลัก ที่เรามองว่าตลาดจะแกว่งกรอบแคบๆ มาจาก นักลงทุนส่วนใหญ่ทยอยขายทำกำไรช่วงสั้น ส่วนต่างประเทศ น่าจะรอดูตัวเลข PCE (คืนนี้) และการประชุม FOMC (วันพุธหน้า) ทำให้ตลาด 4 วันข้างหน้าจะเป็นแบบเคลื่อนไหวในกรอบแคบมากกว่า โดยตัวแปร สำคัญ จะเป็นสถานการณ์ตะวันออกกลาง และ(ถ้า)ตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ ออกมาผิดคาด


• ตัวเลข GDP 1q(a) ของสหรัฐฯ  ออกมาที่ 1.6% ต่ำกว่าที่คาด 2.5% ค่อนข้างมาก จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ขณะที่ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น หลังตัวเลขออก จึงกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯในคืนที่ผ่านมา


• การรายงานผลประกอบการของบริษัทในกลุ่ม Tech ของสหรัฐฯ ออกมาดีในคืนที่ผ่านมา ทั้ง Alphabet และ Microsoft ช่วยประคองตลาดหุ้นสหรัฐฯในช่วงท้ายๆ ไว้ และเป็นที่สังเกตได้ว่า ส่วนใหญ่จะมีการพูดถึงการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรง (ใครไม่ทำ อาจเป็นลบ รวมทั้งจะมีธุรกิจที่จะเป็นลบในอนาคต ถ้า AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น)


• สถานการณ์ตะวันออกกลาง โดยรวม ดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย หลังอิสราเอลเริ่มโจมตีราฟาล และมีการยิงเรืออิสราเอล ที่อยู่ในทะเลแดงด้วย เป็นปัจจัยลบของตลาดหุ้น (กลัวเงินเฟ้อขึ้น และเศรษฐกิจชะลอตัว)


• ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับการกำกับดูแล  Naked Short Selling และการใช้ Program Trading เพื่อการซื้อขายแบบ HFT ....  การควบคุมการซื้อขายที่เข้มงวด จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น


• ธนาคารพาณิชย์ เตรียมลดดอกเบี้ย ให้กับลูกค้าเป็นบางกลุ่ม เป็นเวลาเพียง 6 เดือน ผลกระทบจากกำไร (NIM) ของธนาคาร ไม่มากนัก  เราน่าจะเห็นการดีดตัวกลับ ของหุ้นธนาคาร จากที่ปรับตัวลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา


• Event สำคัญๆ วันนี้ : ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ อาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ตลาดจะดูในเรื่องการซื้อพันธบัตร) , บอร์ด ธ.ก.ส.ประชุมเพื่อให้ความช่วยกับรัฐบาลในเรื่อง Digital Wallet


Strategy

• คาดดัชนีฯ จะชะลอการขึ้น และใกล้เป้าระยะสั้นที่ 1370 จุดแล้ว กลยุทธ์ลงทุน ยังคงเป็นเน้นขายทำกำไรช่วงสั้น (ที่ 1363 , 1370) เพื่อ switch ไปหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวแทน


• หุ้นชุด (ลงแรง+แข็งแกร่ง)  วันนี้ เราเหลือที่ให้ถือไว้ 4 ตัว คือ BDMS*, TISCO , MTC, KCE* โดยเลือกขายทำกำไร BH ที่ราคาพุ่งขึ้นมามากออกไป


• เล็งหุ้นที่งบ 1q จะออกมาดี เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้น ยังคงเป็น 6 ตัว ประกอบด้วย BDMS, CENTEL, ICHI, SAPPE, RBF*, TKN*


• หุ้นในพอร์ตวันนี้  เรานำหุ้น ITC ที่น่าจะได้อานิสงค์จากตัวเลขส่งออกที่จะรายงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเป็น 1 ใน 3 หุ้นที่เราคาดว่าจะเข้าคำนวณใน SET50 รอบเดือน ก.ค.เข้ามาในพอร์ต  ทำให้หุ้นในพอร์ตวันนี้ ประกอบด้วย ITC(10%), WHA(10%), KTB(10%) และ BDMS*(10%)


Technical  :  CBG, SAV


บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,355 -1,360 แนวต้าน 1,372 ระหว่างรอตัวเลข US PCE มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ย และรอรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,OSP,TU,ITC,KCG/ กลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC/ รพ. BDMS,BCH และกลุ่มโรงแรม ERW,AWC,MBK


TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.35 บาท) แนวโน้ม 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ, YoY ตามยอดขายผ่าน 7-Eleven และมีโมเมนตัมดีต่อใน 2Q67 จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 232 ล้านบาท +12%YoY และ 254 ล้านบาท +10%YoY


AWC* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.40 บาท) กำไรสุทธิปี2566 อยู่ที่ 5.0 พันลบ.,+31%YoY(มี Extra Gain ราว +3.9 พันลบ.) หนุนด้วย EBITDA +27%YoY โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจ Hotel(+119%YoY) และ Retail(+22%YoY) ตามการฟื้นตัวหลัง Covid-19 ส่วนผลการดำเนินงานปกติ 1Q67 นี้ คาดยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากหน่วยธุรกิจ Hotel และ Retail หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1Q67 ที่ 9.37 ล้านคน, +44%YoY ทั้งนี้ทางบริษัทวางเป้าในส่วนของธุรกิจ Hotel จะมี occ. Rate ที่75%(เท่า PreCovid-19 ปี62/ ปี66 occ. Rate อยูที่ 64.6%) และ ADR ที่ 5,858 บาท,+3.5%YoY(+25%เทียบ PreCovid-19 ปี62)


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X