> รู้ทันการลงทุน >

25 เมษายน 2024 เวลา 06:20 น.

คาดตลาดหุ้นฟื้นตัว หลังสงครามยังอยู่ในวงจำกัด

#ทันหุ้น - ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งตลาดหุ้นถูกกดดันจากปัจจัยลบเดิม ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีการยกระดับการตอบโต้ระหว่างกัน โดยดัชนีความผันผวน VIX Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับกว่า 20 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน ใกล้เคียงกับการเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เมื่อเดือน ต.ค. 66 นอกจากนี้ความกังวลเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังคงปกคลุมตลาด หลังประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณอาจค้างดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนาน และลดได้ช้ากว่าที่คาดไว้ หลังเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น เราคาดว่าสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หลังปรับตัวลดลงแรง และสงครามยังอยู่ในวงจำกัด ติดตามงบไตรมาส 1/67 จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางตลาด

รายงาน BLS Top Funds ให้มุมมองตลาดหุ้นไทย (Slightly Overweight) ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแรงกว่า 4% ท่ามกลางความกังวลจากภาวะสงครามตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันจากภายนอก ทำให้ Sentiment การลงทุนดูไม่ค่อยดี โดยเรามองว่าตลาดหุ้นไทยมี Downside ของตลาดเริ่มจำกัด และยัง Laggard กว่าตลาดหุ้นอื่น ถึงแม้ว่า Upside ของตลาดอาจยังไม่ชัดเจน แต่มองเป็นจังหวะทยอยซื้อ หากดัชนีเคลื่อนไหวแถวบริเวณต่ำกว่า 1,400 จุด+/-


ตลาดตราสารหนี้ (Slightly Overweight) : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในอายุ 2 ปี ขึ้นแตะระดับ 5% และ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.62% จากความกังวลเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ หลังประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณอาจค้างดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนาน และลดได้ช้ากว่าที่คาดไว้ หลังเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น เรายังคงมีมุมมองบวกต่อตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว มองเป็นจังหวะสามารถทยอยซื้อสะสมได้ เพื่อการกระจายการลงทุน หลัง Bond Yield อายุ 2 ปี และ 10ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นแถวบริเวณ 5.00%+/- และ 4.80%+/- ตามลำดับ


ตลาดหุ้นเวียดนาม (Slightly Overweight) : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในอายุ 2 ปี ขึ้นแตะระดับ 5% และ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.62% จากความกังวลเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ หลังประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณอาจค้างดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนาน และลดได้ช้ากว่าที่คาดไว้ หลังเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น เรายังคงมีมุมมองบวกต่อตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว มองเป็นจังหวะสามารถทยอยซื้อสะสมได้ เพื่อการกระจายการลงทุน หลัง Bond Yield อายุ 2 ปี และ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นแถวบริเวณ 5.00%+/- และ 4.80%+/- ตามลำดับ


ตลาดหุ้นจีน (Slightly Overweight) : ตลาดหุ้นจีนปรับตัวผสมผสาน โดยตลาดหุ้นฮ่องกงจีนปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีกว่า 1% หลังรายงานตัวเลข GDP 1Q/2567 ออกมาสูงกว่าคาด +5.3%YoY และตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาผสมผสาน ไม่ได้แย่กว่าที่คาดมากนัก เราคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะยังคงมี Momentum เชิงบวกต่อไปได้ หลังตลาดซึมซับปัจจัยลบไปแล้วระดับหนึ่ง และราคาหุ้นค่อนข้างถูก แนะนำทยอยซื้อสะสม แต่ทั้งนี้ Sentiment เชิงลบ ตามตลาดหุ้นทั่วโลก อาจกดดันดัชนีได้


ตลาดหุ้นสหรัฐ (Neutral) : ตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลดลงทั้งสามดัชนีหลัก โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ย หลังประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณอาจค้างดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนาน และลดได้ช้ากว่าที่คาดไว้ หลังเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น เรามองว่าระยะสั้นตลาดมีโอกาสเกิด Sector Rotation จากหุ้นกลุ่ม Growth ไปสู่หุ้นกลุ่ม Defensive โดยเรายังแนะนำ Let Profit Run ต่อ และหากนักลงทุนกังวลต่อการพักฐาน แนะนำกระจายเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive รับโอกาสเกิด Sector Rotation


ตลาดหุ้นยุโรป (Neutral) : ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก แต่เป็นการปรับตัวลงในอัตราที่น้อยกว่าภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ขณะที่การรายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ออกมาต่ำกว่าคาดอยู่ที่ระดับ 2.4%YoY แต่กลับเร่งตัวในรายเดือน 0.8%MoM ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวช่วยหนุนโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยลงของ ECB ได้เร็วกว่าฝั่งสหรัฐฯ FED และตลาดหุ้นยุโรปยังคงมี Valuation ที่ถูกเมื่อเทียบกับตลาดอื่น เป็นปัจจัยหนุนในการจำกัดความเสี่ยงขาลง แต่ระยะสั้นตลาดหุ้นยุโรปมีโอกาสพักตัว ชะลอความร้อนแรง หลังปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่น สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ


สำหรับคำแนะนำการลงทุนในกองทุน ในช่วงที่ผ่านมา กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ปรับตัวลดลงตามตลาด -7.46% โดยได้รับแรงกดดันมาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้กระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน เราคาดว่าสงครามจะยังอยู่ในวงจำกัด ไม่บานปลาย ทำให้ค่าเงินดองมีโอกาสแข็งค่าขึ้น จะช่วยชะลอเงินทุนไหลออกจากตลาดได้ และกองทุนยังมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ และส่งออก หลังปรับตัวลงแรง มองเป็นโอกาสเข้าซื้อ เรายังคงแนะนำ Let Profit Run ต่อ และรอประเมินสถานการณ์ เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มเติม 



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X