24 เมษายน 2024 เวลา 13:25 น.
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่าFED Watch Tool คาดเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง (เดิม 1 ครั้ง) สะท้อนที่ Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี รวมทั้งดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับลง หลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นในเดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ แตะ 50.9 ต่ำกว่าเดือน มี.ค. ที่ 52.1 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความกังวลต่อการดำเนินนโยบาย Higher for Longerของ FED ซึ่ง Bond Yield ปรับลงเป็นบวกต่อหุ้น MTC, TIDLOR และ SAWAD
โดยค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่า หลังก่อนหน้าแตะแนวอ่อนค่าในรอบ 7 เดือน ที่ 37 บาท โดยเฉพาะแข็งค่ามากกว่า 36.70 บาท จะแข็งค่าเร็วสู่ 36-36.20 บาท สะท้อน Fund Flow น่าจะกลับมาซื้อตลาดหุ้นไทย เพราะ ณ ระดับ 1,350 จุด ถือว่า SET INDEX มี Valuation ที่ถูก ซื้อขายที่ PE 14.7เท่า (ต่ำกว่า -1SD) และ PBV 1.3เท่า (-2SD) อีกทั้ง MEYG ที่กว้างถึง 4.25%
ส่วน Earing Preview กำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 โตทั้ง QoQ และ YoY ล่าสุดฝ่ายวิจัยรวบรวม Earing Preview งวดไตรมาส 1/67 จาก Bloomberg Consensus จำนวน 101 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของ Market Cap พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 1.69 แสนล้านบาท โต +51.7%QoQ และ +3%YoY ส่วนหุ้นที่มีการขายชอร์ตและยังไม่ได้ซื้อคืน น่าจะมีการทำ Cover Short เกิดขึ้น ส่งให้ดัชนีหุ้นไทยรอบหลักจะฟื้นสู่ Gap 1,380-1,395 จุด แม้รายทางอาจย่อสลับได้ บ่ายนี้แกว่ง 1,355-1,366 จุด
ธปท. ห่วงไทยอาจถูกลดอันดับเครดิต จากความเสี่ยงภาระการคลังในระยะยาว ซึ่งการเดินหน้าโครงการ Digital Walletวงเงิน 5 แสนล้านบาท อาจทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อรายได้ของไทยพุ่งเกิน 11% นำมาสู่ความเสี่ยงที่จะโดนปรับลดอันดับเครดิตจาก Moody’s
หุ้นเทคนิคบ่ายนี้ แนะนำหุ้น GLOBAL และ TFG
บล.เอเอสแอล ระบุว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปิดปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกันกับตลาดต่างประเทศ โดยได้ปัจจัยหนุนจากสหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการต่ำกว่าคาด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณการชะลอตัวลง ส่งผลให้ Dollar อ่อนค่าลง และ US Bond Yield ปรับตัวลง หนุนการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีแรงขายกลุ่มธนาคารออกมารับข่าวนายกรัฐมนตรี พบตัวแทนสมาคมธนาคารไทยเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจีดีพีไตรมาส 1/67 และตัวเลข PCE
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีเปิดบวกมีแรงขายออกมาระหว่างวันให้เน้นยืนที่แนวรับ 1,353-1,350 จุด ไม่ควรต่ำกว่า ส่วนแนวต้านที่ 1,368/1,380 จุด
บล.โกลเบล็ก ระบุว่าดัชนีรีบาวด์ทดสอบ 1,364 จุดและมีแรงขายทำให้ปิดสร้างแท่งเทียนแดง อย่างไรก็ตามยังไม่หลุดแนวรับ 1,350 จุดทำให้ยังไม่เสียทรงการรีบาวด์ มองกรอบดัชนีภาคบ่าย 1,350-1,365 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นภาคเช้า ดัชนีเคลื่อนไหว sideway หลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ จากตลาดคาดปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนติดตามการรายงาน PCE ของสหรัฐ ในวันศุกร์นี้ โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มธนาคารเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,360.90 จุด บวก 3.44 จุด หรือ 0.25% มูลค่าการซื้อขาย 19,967 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม